หัวข้อ   “ ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า ”
 
นักเศรษฐศาสตร์คาดปัจจัยส่งออกฉุดเศรษฐกิจไทยยาวถึงต้นปี 56 เป็นอย่างน้อย
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
 
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็น
นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 62 คน เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นนัก
เศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า
” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่
25 – 31 ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่า
 
                 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
อยู่ที่ระดับ 45.57
  ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 หมายความว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
อยู่ในสถานะอ่อนแอซึ่งเศรษฐกิจไทยอยู่ในสถานะดังกล่าวเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน
นับจากการสำรวจในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
  และเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจ
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าค่าดัชนีปรับตัวลดลงเล็กน้อย 1.74 จุด  โดยเฉพาะ
ในส่วนของปัจจัยด้านการส่งออกสินค้าที่ลดลงถึง 12.44 จุด
 
                 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 3
เดือนข้างหน้า พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ในระดับ 56.08 และเมื่อมองออกไป
ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ในระดับ 55.80 หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่า
เศรษฐกิจไทยในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้น
 เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน โดยปัจจัยในการขับเคลื่อน
เศรษฐกิจที่สำคัญใน 3-6 เดือนข้างหน้าคือ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ

ขณะที่ปัจจัยการส่งออกสินค้าเป็นปัจจัยที่นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าจะยังคงแย่ลงต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2556 เป็นอย่างน้อย
เมื่อเทียบกับปัจจุบัน
 
                 ทั้งนี้การที่ค่าดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่น
ต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ไม่ค่อยจะสดใส ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจ
มีการเติบโตอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
 
                 โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้
 
            ภาพที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทย (จำแนกตามดัชนี)
 
             1. ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
2553
2554
2555
เปลี่ยน
แปลง
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
1) การบริโภค
    ภาคเอกชน
39.13
50.00
56.02
50.00
52.46
46.77
32.39
48.31
50.00
+1.69
2) การลงทุน
    ภาคเอกชน
24.26
45.21
49.39
45.59
50.82
48.36
20.71
44.07
46.67
+2.60
3) การใช้จ่ายและ
    การลงทุนภาครัฐ
58.09
56.16
58.02
55.71
52.59
54.03
45.71
57.14
51.69
-5.45
4) การส่งออกสินค้า
76.09
69.59
65.24
69.29
69.17
66.39
20.00
36.21
23.77
-12.44
5) การท่องเที่ยว
    จากต่างประเทศ
13.24
46.53
53.09
53.52
59.68
54.03
23.24
50.85
55.74
+4.89
ดัชนีรวม
42.16
53.50
56.35
54.82
56.94
53.92
28.41
47.31
45.57
-1.74
หมายเหตุ : ค่าดัชนีจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดย
  ค่าดัชนีเท่ากับ 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะปกติ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
เดิม/ไม่เปลี่ยนแปลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีสูงกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะแข็งแกร่ง (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ใน
ระดับ ดีขึ้น (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะอ่อนแอ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
แย่ลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
 
 
             2. ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจ
ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
2553
2554
2555
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
1) การบริโภคภาคเอกชน
79.29
64.19
53.61
50.71
66.07
45.08
62.14
56.03
57.63
2) การลงทุนภาคเอกชน
71.01
67.81
62.20
55.15
57.41
42.24
69.57
58.62
51.72
3) การใช้จ่ายและการ
    ลงทุนภาครัฐ
65.22
55.48
63.58
59.29
70.69
71.19
71.64
75.00
70.34
4) การส่งออกสินค้า
63.57
28.38
47.56
48.57
49.12
31.36
54.41
65.79
42.37
5) การท่องเที่ยวจาก
    ต่างประเทศ
81.88
67.36
63.58
39.44
67.24
47.41
59.29
56.78
58.33
ดัชนีรวม
72.19
56.64
58.11
50.63
62.11
47.46
63.41
62.44
56.08
 
 
             3. ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 6 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
2554
2555
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
1) การบริโภคภาคเอกชน
48.25
68.84
62.28
55.21
2) การลงทุนภาคเอกชน
44.07
81.82
67.31
55.00
3) การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
70.00
75.00
75.93
61.82
4) การส่งออกสินค้า
25.44
62.12
67.59
44.23
5) การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
37.96
73.19
68.10
62.73
ดัชนีรวม
45.14
72.19
68.24
55.80
 
 
             4. ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใน 3 - 6 เดือนข้างหน้า

 
3 เดือนข้างหน้า
6 เดือนข้างหน้า
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
จะดีขึ้น
เมื่อเที่ยบกับปัจจุบัน
การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
การบริโภคภาคเอกชน
การลงทุนภาคเอกชน
การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ

การบริโภคภาคเอกชน
การลงทุนภาคเอกชน

ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
จะแย่ลง
เมื่อเที่ยบกับปัจจุบัน
การส่งออกสินค้า
การส่งออกสินค้า
 
 

** หมายเหตุ:  รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้   เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
                     นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด

 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์:
                  1. เพื่อสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและทิศทาง
                      ในอนาคตอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้า
                  2. เพื่อสะท้อนข้อเสนอแนะประเด็นเศรษฐกิจของนักเศรษฐศาสตร์ไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 
กลุ่มตัวอย่าง:

                        เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์
               (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใด
               อย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้
               ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปี) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจ
               ระดับชั้นนำของประเทศ จำนวน 27 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย   สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
               การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง   สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
               สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร   สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์   สถาบันวิจัยเพื่อการ
               พัฒนาประเทศไทย(TDRI)   ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย   ธนาคารเพื่อการ
               ส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา   ธนาคารกรุงไทย   ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
               ธนาคารทหารไทย   ธนาคารธนชาต   บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ   บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน
               บริษัทหลักทรัพย์ภัทร  คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ   คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลา
               นครินทร์  สำนักวิชาการจัดการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
               คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยขอนแก่น   คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัย
               นเรศวร   สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ   คณะเศรษฐศาสตร์
               มหาวิทยาลัยรามคำแหง   และคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  รวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายใน
ระยะเวลาที่กำหนด
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  25 - 31 กรกฎาคม 2555
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 8 สิงหาคม 2555
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่:    
             หน่วยงานภาครัฐ
28
45.2
             หน่วยงานภาคเอกชน
19
30.6
             สถาบันการศึกษา
15
24.2
รวม
62
100.0
เพศ:    
             ชาย
34
54.8
             หญิง
28
45.2
รวม
62
100.0
อายุ:
 
 
             26 – 35 ปี
21
33.9
             36 – 45 ปี
16
25.8
             46 ปีขึ้นไป
25
40.3
รวม
62
100.0
การศึกษา:
 
 
             ปริญญาตรี
3
4.8
             ปริญญาโท
42
67.7
             ปริญญาเอก
17
27.4
รวม
62
100.0
ประสบการณ์ทำงาน:
 
 
             1 - 5 ปี
10
16.1
             6 - 10 ปี
13
21.0
             11 - 15 ปี
8
12.9
             16 - 20 ปี
8
12.9
             ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
23
37.1
รวม
62
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776